วันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

Kaput


 

สรุปเนื้อหา: Germany’s Economic Crisis – The Fall of the Postwar Miracle


🏗️ 1. จุดเริ่มต้นของปาฏิหาริย์เศรษฐกิจเยอรมนี (Wirtschaftswunder)

  • หลังสงครามโลกครั้งที่สอง เยอรมนีสร้างระบบเศรษฐกิจเน้น การผลิตและส่งออก อุตสาหกรรม

  • ใช้นโยบาย “นีโอเมอร์แคนทิลลิสม์”:

    • กดค่าแรงเพื่อความสามารถในการแข่งขัน

    • สนับสนุนบริษัทขนาดใหญ่ผ่าน Landesbanken (ธนาคารรัฐภูมิภาค)

  • ผล: เกิด การส่งออกเกินดุลมหาศาล แต่ละเลยการลงทุนภายในประเทศ


⚠️ 2. โครงสร้างเศรษฐกิจที่ล้าหลังในโลกที่เปลี่ยนไป

  • ธนาคารรัฐเน้นรักษาอุตสาหกรรมเก่า ไม่สนับสนุนนวัตกรรม

  • วิกฤตซับไพรม์ 2008: ธนาคารเยอรมันสูญเงินมหาศาลเพราะตัดสินใจผิดพลาด

  • ระบบอุตสาหกรรมวนลูปเดิม: ส่งออก > กำไร > ลงทุนซ้ำในสิ่งเดิม → ขาดความสามารถในการปรับตัว


📉 3. ความล้มเหลวในการปรับตัวสู่โลกดิจิทัล

  • ตั้งแต่ทศวรรษ 1980 เยอรมนีเลือก เทคโนโลยีแอนะล็อก มากกว่าดิจิทัล (เช่น โทรศัพท์-โทรทัศน์)

  • ตัวอย่าง:

    • Siemens มองข้ามมือถือ

    • Mercedes พับโปรเจกต์รถยนต์ไฟฟ้าเมื่อรัฐแคลิฟอร์เนียเปลี่ยนกฎ

  • ณ ปี 2021: 70% ของครัวเรือนยังใช้สายทองแดง → อินเทอร์เน็ตช้าเท่าม้าเดิน


🔥 4. ความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์: รัสเซียและพลังงาน

  • เยอรมนีผูกสัมพันธ์กับรัสเซียเพื่อ “ก๊าซราคาถูก” → ช่วยลดต้นทุนการผลิต

  • Schröder–Putin สนิทเกินพอดี → เยอรมนีพึ่งพาก๊าซรัสเซีย 55%

  • ตัดสินใจเลิกนิวเคลียร์หลังฟุกุชิมะ (2011) ยิ่งทำให้พึ่งก๊าซมากขึ้น

  • เมื่อรัสเซียบุกยูเครน (2022) → Nord Stream ถูกทำลาย → โรงงานปิด, พลังงานแพงขึ้น 3 เท่า


🏭 5. การพึ่งพาจีนเกินพอดี

  • เริ่มจาก Volkswagen จับมือกับจีนตั้งแต่ปี 1980s

  • ปี 2014: จีนเลือกเมือง Duisburg เป็นจุดหมายปลายทางของ Belt and Road Initiative

  • ความสัมพันธ์เปลี่ยนจากการ “ส่งออกเครื่องจักร” → เยอรมนีถูกครอบงำ:

    • จีนควบคุมซัพพลาย 80% ของ 36 อุตสาหกรรมสำคัญ

    • BASF ยังลงทุนโรงงาน €10 พันล้านในจีน แม้รู้ความเสี่ยงหากจีนบุกไต้หวัน


🧱 6. โครงสร้างประเทศพังทลาย

  • สะพาน, ถนน, ระบบรางเสื่อมโทรมจากการไม่ลงทุนซ่อมบำรุง

    • ตัวอย่าง: สะพานใน Cologne ปิด 8 ปีจึงเปิดใหม่

  • การเมืองแบ่งขั้ว:

    • พรรค AfD (ขวาจัด) ได้แรงหนุนจากความไม่พอใจหลังวิกฤตผู้ลี้ภัย

    • SPD และ CDU เสื่อมอิทธิพล → อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่ปี 2029


🛑 7. การปฏิรูปที่ล้มเหลว

  • รัฐบาล Scholz เสนอแผนฟื้นฟู €450 พันล้าน แต่:

    • ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าขัดกับ “กฎห้ามขาดดุลงบประมาณ” (debt brake)

    • โครงการถูกล้มกลางทาง

  • โครงสร้างเศรษฐกิจยังถูกล็อคไว้ด้วยกฎหมายและความกลัวการเปลี่ยนแปลง


🧭 8. ทางออกที่เป็นไปได้ (ตามข้อเสนอของผู้เขียน)

ข้อเสนอ เป้าหมาย
สร้างระบบการเงินยุโรปร่วม (eurobonds) ปรับพฤติกรรมการลงทุนของธนาคารเยอรมัน
ปฏิรูปรัฐธรรมนูญเรื่องห้ามขาดดุล (debt brake) เพิ่มงบเพื่อซ่อมโครงสร้างพื้นฐานและลงทุนดิจิทัล
หันไปลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ หยุดหมุนเงินในภาคอุตสาหกรรมเก่าอย่างถ่านหิน

บทสรุป

เยอรมนีติดกับดักความสำเร็จในอดีต
ยังยึดติดกับอุตสาหกรรมแบบศตวรรษที่ 20 ขณะโลกหมุนสู่ดิจิทัล
หากไม่กล้าเปลี่ยนตอนนี้ อนาคตของมหาอำนาจเศรษฐกิจยุโรปอาจสิ้นสุดลงโดยไม่มีทายาทที่แท้จริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น