สรุปแนวคิดของ R. D. Laing เกี่ยวกับความผิดปกติทางจิต (Ontological Insecurity)
🔍 1. โลกภายในที่แตกแยก: เมื่อคนหนึ่งรู้สึกว่า “ตนเองไม่ใช่ตัวเอง”
-
R. D. Laing อธิบายผู้ป่วยบางรายว่ามีประสบการณ์คล้าย “ถูกขังในร่างกายของตนเอง”
-
รู้สึกเหมือนไม่ได้ควบคุมการกระทำของตัวเอง → มี “ตัวปลอม” (false self) ทำหน้าที่แทน
👶 2. ตัวตนเกิดจากความสัมพันธ์ในวัยเด็ก
-
เด็กแรกเกิดยังไม่มีตัวตน (sense of self) หรือการแยกตนเองออกจากผู้อื่น
-
การพัฒนาตัวตนต้องอาศัยการตอบสนองจากพ่อแม่ เช่น เมื่อลูกร้อง → แม่ตอบสนอง → เด็กรู้ว่า "ฉันมีอยู่"
-
ถ้าเด็กถูกเมิน → ตัวตนไม่พัฒนา → เสี่ยงต่อภาวะ “ontological insecurity” (ความไม่มั่นคงในตัวตน)
⚠️ 3. เด็กที่ “ดีเกินไป” อาจกำลังป่วย
-
เด็กที่ไม่แสดงอารมณ์ ไม่โกหก หรือเชื่อฟังทุกอย่าง อาจไม่ได้เป็นเด็กดี
-
แต่เพราะ:
-
ไม่รู้ว่าความรู้สึกตนเองคืออะไร
-
แยกไม่ออกว่าตนกับผู้อื่นต่างกัน
-
กลัวว่าคนอื่นจะล่วงรู้ความคิด → ไม่มีจุดเริ่มต้นของการมี “ตัวตน” ที่แยกออกมา
-
🧩 4. Ontological Insecurity: ความกลัวระดับลึกถึงการ “ไม่มีอยู่จริง”
-
ผู้ป่วยบางคนไม่มั่นใจว่าตน “มีอยู่จริง” หรือไม่
-
เช่น พูดถึงตัวเองในบุรุษที่สาม หรือรู้สึกเป็นเพียง “เงา”
-
ต้องพึ่งการรับรู้จากผู้อื่นเพื่อยืนยันว่า “ฉันมีอยู่” → แต่ก็กลัวการเชื่อมโยงกับคนอื่น
⛓️ 5. ภาวะกลืนกินทางตัวตน (Engulfment)
-
คนที่มีตัวตนไม่มั่นคง กลัวว่าการใกล้ชิดกับผู้อื่นจะทำให้ตน “หายไป”
-
การถูกเข้าใจมากเกินไป = การสูญเสียขอบเขตระหว่าง “ฉัน” กับ “เขา”
-
แม้แต่ความรักหรือความห่วงใย ก็อาจถูกตีความว่าอีกฝ่ายกำลังครอบครองหรือยึดตัวตนของตนเองไป
🎭 6. การสร้าง “ตัวปลอม” เพื่อเอาตัวรอด
-
คนเหล่านี้มักสร้าง false self ซึ่งแสดงออกอย่างเหมาะสมในสังคม
-
แต่ภายในคือ true self ที่ขัดแย้ง ซ่อนตัว และรู้สึกแปลกแยก
-
ตัวปลอม = เพื่อเอาตัวรอด / ตัวจริง = เก็บไว้ไม่ให้ใครแตะต้อง
🧠 7. ความรู้สึกไม่เป็นเจ้าของร่างกาย
-
บางคนรู้สึกว่า “ร่างกายไม่ใช่ของฉัน”
-
แม้บาดเจ็บก็ไม่สะทกสะท้าน เพราะรู้สึกว่าเป็นเรื่องของ false self
-
ไม่รู้สึกอะไรโดยตรงจากโลกรอบข้าง → ทุกอย่างผ่านตัวปลอมก่อนเสมอ
🌌 8. ความโดดเดี่ยว = ที่พักพิงของจินตนาการ
-
การแยกจากโลกภายนอกทำให้ ตัวจริง รู้สึก “บริสุทธิ์” ไม่ต้องโกหกใคร
-
จินตนาการ (ว่าตนเก่งพิเศษ, มีพลัง) จึงดูจริงยิ่งกว่าโลกจริง
-
ไม่มีใครโต้แย้ง → ความหลงผิดเติบโตอย่างไร้ขอบเขต
🌀 9. การพังทลาย: จากแยกตัว → สู่โรคจิตเภท
-
เมื่อ false self ดู “จริง” กว่า true self → ตัวจริงเริ่มรู้สึกว่ามีใครบางคนแย่งร่างกายไปใช้
-
นำไปสู่ความเชื่อว่า “มีอีกคนอยู่ในร่าง” หรือ “ฉันเป็นแค่ผู้สังเกต ไม่ใช่เจ้าของชีวิต”
-
ขาดโอกาสเชื่อมโยงกับโลก → ไม่มี feedback มาหักล้างความคิดหลงผิด → โรคจิตเภท
🔑 สาระสำคัญ:
-
โรคทางจิต ไม่ได้เป็นแค่ “สมองผิดปกติ” แต่เกี่ยวข้องลึกถึงระดับ “การมีอยู่” (ontology)
-
ความสัมพันธ์กับผู้อื่นตั้งแต่วัยเด็กคือกุญแจของการสร้างตัวตน
-
คนที่แยกตนเองออกจากโลก อาจดูปกติจากภายนอก แต่ภายในคือความสับสนว่าตนเองมีอยู่จริงหรือไม่
Laing ท้าทายจิตวิทยาแบบดั้งเดิม ด้วยการบอกว่า
“ความบ้าคลั่ง” อาจไม่ใช่โรคที่ต้องรักษา แต่เป็นเสียงร้องของวิญญาณที่ต้องการการเข้าใจอย่างลึกซึ้ง.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น