สรุปแนวคิดสำคัญจาก “Thinking, Fast and Slow” ของ Daniel Kahneman:
🔹 สองระบบในใจเรา
-
System 1: ทำงานเร็ว อัตโนมัติ ใช้สัญชาตญาณ (เช่น ตกใจเสียงดัง)
-
System 2: ทำงานช้า มีเหตุผล ใช้ความพยายามในการคิดวิเคราะห์ (เช่น คำนวณ ควบคุมตนเอง)
-
พฤติกรรมของเราคือผลลัพธ์จากปฏิสัมพันธ์ระหว่างสองระบบนี้
🔹 ความล้าและความขี้เกียจทางจิตใจ
-
เรามักใช้ System 1 เพราะมันง่ายและเร็ว แต่ทำให้เกิดข้อผิดพลาดง่าย ๆ เช่น ในโจทย์ bat-and-ball problem
-
ความฉลาดเพิ่มขึ้นได้จากการฝึกใช้ System 2 (โฟกัส ควบคุมตนเอง)
🔹 การ priming และอิทธิพลที่มองไม่เห็น
-
สิ่งที่เราสัมผัสก่อนหน้าสามารถกำหนดความคิดและพฤติกรรมได้โดยไม่รู้ตัว เช่น คำว่า "EAT" ทำให้เติม "SO_P" ว่า "SOUP"
-
ตัวอย่างเช่น การได้ยินคำที่เกี่ยวกับ “คนแก่” ทำให้เดินช้าลงโดยไม่รู้ตัว
🔹 การตัดสินใจแบบรวดเร็วที่ผิดพลาด
-
Halo effect: ชอบบางสิ่งในตัวคนหนึ่ง แล้วเหมารวมว่าทุกอย่างในตัวเขาดี
-
Confirmation bias: ชอบหาหลักฐานที่สนับสนุนความคิดเดิม
-
Heuristics: ใช้ทางลัดทางความคิด เช่น ตัดสินผู้สมัครนายอำเภอจากหน้าตา แทนที่จะดูประวัติ
🔹 ความล้มเหลวในการเข้าใจสถิติ
-
เรามักละเลย base rate (เช่น ความน่าจะเป็นพื้นฐาน)
-
ไม่เข้าใจ regression to the mean (ความผันผวนกลับสู่ค่าเฉลี่ย)
-
เช่น คิดว่าหลังจากเห็น taxi สีแดง 5 คันติดกัน คันต่อไปควรจะเป็นสีเหลือง ทั้งที่ความน่าจะเป็นไม่เปลี่ยน
🔹 ความทรงจำที่บิดเบือน
-
Experiencing self: จำเหตุการณ์ขณะเกิดขึ้น
-
Remembering self: จำจากภาพรวมและมักบิดเบือน เช่น peak-end rule (จำสิ่งที่เกิดตอนจบมากเกินไป)
🔹 สถานะจิต: ความง่าย vs ความเครียด
-
Cognitive ease: สบายใจ ใช้ System 1, ทำให้คิดสร้างสรรค์แต่เสี่ยงผิดพลาด
-
Cognitive strain: เครียด ใช้ System 2, คิดละเอียดรอบคอบแต่ช้าลง
🔹 การ framing ส่งผลต่อการตัดสินใจ
-
การนำเสนอข้อมูลแบบต่าง ๆ เปลี่ยนพฤติกรรมได้ เช่น
👉 “10% risk” vs “1 ใน 10 จะเป็นแบบนี้” ทำให้คนตัดสินใจต่างกัน
🔹 เราไม่ใช่ผู้ตัดสินใจแบบ “Econs”
-
Utility theory: สมมติว่าเราตัดสินใจแบบเหตุผลล้วน
-
Prospect theory: คนกลัวการสูญเสียมากกว่าการได้กำไร (loss aversion) และการตัดสินใจขึ้นกับ reference point
🔹 ภาพในใจและความมั่นใจเกินเหตุ
-
สมองสร้าง “ภาพในใจ” เพื่อทำความเข้าใจโลก แต่เรามักเชื่อในภาพนั้นมากเกินไปจนละเลยข้อมูลจริง
-
วิธีแก้: ใช้ reference class forecasting (ดูข้อมูลประวัติจริง) และวางแผนเผื่อความเสี่ยง
💡 บทสรุป:
เราตัดสินใจและพฤติกรรมส่วนใหญ่ขึ้นกับ สองระบบในใจ ซึ่ง System 1 ทำงานรวดเร็วแต่เสี่ยงผิดพลาด ขณะที่ System 2 ทำงานช้าแต่แม่นยำกว่า เรามักถูก priming, heuristics และ framing หลอกโดยไม่รู้ตัว และแม้เราจะคิดว่าเราตัดสินใจอย่างมีเหตุผล แต่จริง ๆ แล้ว อารมณ์ ความคาดหวัง และความกลัวการสูญเสีย มีบทบาทมหาศาล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น