วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568

Clashing over Commerce

 


สรุป : The History and Politics of U.S. Trade Policy


🧭 ภาพรวม:

นโยบายการค้าของสหรัฐฯ เปลี่ยนแปลงอย่างมากในรอบ 200 ปี — จากการเป็นเครื่องมือหาเงินให้รัฐบาล กลายเป็นประเด็นการเมืองร้อนแรงที่สะท้อนความขัดแย้งเรื่องภูมิภาค อุดมการณ์ และบทบาทของอเมริกาในโลกยุคโลกาภิวัตน์


🕰️ พัฒนาการสำคัญของนโยบายการค้าอเมริกัน

🔹 1. ยุคอาณานิคมถึงหลังปฏิวัติ (1760s–1790s):

  • อังกฤษควบคุมการค้าผ่านกฎหมาย Navigation Acts → จุดชนวนการปฏิวัติ

  • หลังอิสรภาพ รัฐธรรมนูญใหม่ให้ “สภาคองเกรส” มีอำนาจควบคุมการค้าระหว่างประเทศและตั้งภาษีนำเข้าเพื่อหารายได้รัฐ

🔹 2. ยุคภาษีศุลกากรเป็นรายได้หลัก (1790s–1850s):

  • รัฐบาลกลางใช้ ภาษีนำเข้า (tariffs) แทนภาษีรายได้ → ง่ายต่อการจัดเก็บ

  • ความขัดแย้งเหนือ-ใต้ เริ่มปรากฏ:

    • เหนือสนับสนุนการปกป้องอุตสาหกรรม

    • ใต้พึ่งพาการส่งออกและสินค้านำเข้า → คัดค้านภาษีสูง

🔹 3. ยุคปกป้อง (Protectionist Era, 1861–1930):

  • หลังสงครามกลางเมือง ภาษีนำเข้าสูงขึ้นและ “ค้างคา” นานเกือบ 70 ปี

  • พรรครีพับลิกันสนับสนุนแนวคิด “ปกป้องอุตสาหกรรม”

  • Smoot-Hawley Tariff (1930) ยิ่งเพิ่มภาษี → นำไปสู่สงครามภาษีและซ้ำเติมเศรษฐกิจช่วง Great Depression

🔹 4. ยุคการเจรจาและความร่วมมือ (1934–1980s):

  • Reciprocal Trade Agreements Act (1934): โอนอำนาจเจรจาการค้าจากสภาให้ประธานาธิบดี

  • สหรัฐฯ ก่อตั้ง GATT (1947) → เริ่มวางระบบการค้าเสรีพหุภาคี

  • นโยบายการค้าเชื่อมโยงกับ ยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ ในบริบทสงครามเย็น

🔹 5. ความเห็นพ้องแบบสองพรรค (1940s–1980s):

  • ทั้งเดโมแครตและรีพับลิกันสนับสนุนการค้าเสรี

  • ใช้การลดภาษีเพื่อส่งเสริมการเติบโตและสร้างพันธมิตรในสงครามเย็น

  • มาตรการ “ผ่อนผันเฉพาะกลุ่ม” (quotas, safeguards) ใช้บรรเทาผลกระทบภายในประเทศ

🔹 6. โลกาภิวัตน์และจุดแตกหัก (1990s–ปัจจุบัน):

  • NAFTA (1993) ได้รับเสียงสนับสนุนสองพรรค แต่เริ่มมีแรงต้านจากประชาชนและแรงงาน

  • จีนเข้า WTO (2001) → เปิดตลาดใหม่แต่กระทบอุตสาหกรรมการผลิตในสหรัฐฯ

  • การคัดค้าน TPP และท่าทีของผู้สมัครในปี 2016 (ทรัมป์และแซนเดอร์ส) สะท้อนว่า “การค้าเสรี” กลายเป็นเป้าหมายโจมตีทางการเมือง

  • ประเด็นการค้า = ตัวแทนของความไม่เท่าเทียมและอัตลักษณ์ทางเศรษฐกิจ


⚖️ แรงตึงเครียดที่ต่อเนื่องในนโยบายการค้า

ประเด็น มุมมองหนึ่ง มุมมองตรงข้าม
การปกป้องอุตสาหกรรม รักษางาน, ส่งเสริมการผลิตในประเทศ เพิ่มราคาสินค้า, จุดชนวนตอบโต้จากต่างประเทศ
การค้าเสรี เปิดตลาด ส่งออกได้มากขึ้น, เสริมพันธมิตร สูญเสียงานในภาคการผลิต, ค่าแรงนิ่ง
อำนาจการเจรจา ประธานาธิบดีควรมีอำนาจเพื่อความคล่องตัว สภาควรมีบทบาทเพื่อตรวจสอบผลกระทบในท้องถิ่น

🧠 สาระสำคัญ

  • นโยบายการค้า = ภาพสะท้อนของ “ภูมิรัฐศาสตร์” + “ผลประโยชน์ในประเทศ”

  • จากเครื่องมือเก็บภาษี → กลายเป็นเวทีต่อสู้ทางอุดมการณ์

  • วันนี้ การค้าถูกมองว่าไม่ใช่แค่ “เรื่องเศรษฐกิจ” แต่เกี่ยวข้องกับ ตัวตนของประเทศ และความเป็นธรรมทางสังคม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น