สรุป : The History and Politics of U.S. Trade Policy
🧭 ภาพรวม:
นโยบายการค้าของสหรัฐฯ เปลี่ยนแปลงอย่างมากในรอบ 200 ปี — จากการเป็นเครื่องมือหาเงินให้รัฐบาล กลายเป็นประเด็นการเมืองร้อนแรงที่สะท้อนความขัดแย้งเรื่องภูมิภาค อุดมการณ์ และบทบาทของอเมริกาในโลกยุคโลกาภิวัตน์
🕰️ พัฒนาการสำคัญของนโยบายการค้าอเมริกัน
🔹 1. ยุคอาณานิคมถึงหลังปฏิวัติ (1760s–1790s):
-
อังกฤษควบคุมการค้าผ่านกฎหมาย Navigation Acts → จุดชนวนการปฏิวัติ
-
หลังอิสรภาพ รัฐธรรมนูญใหม่ให้ “สภาคองเกรส” มีอำนาจควบคุมการค้าระหว่างประเทศและตั้งภาษีนำเข้าเพื่อหารายได้รัฐ
🔹 2. ยุคภาษีศุลกากรเป็นรายได้หลัก (1790s–1850s):
-
รัฐบาลกลางใช้ ภาษีนำเข้า (tariffs) แทนภาษีรายได้ → ง่ายต่อการจัดเก็บ
-
ความขัดแย้งเหนือ-ใต้ เริ่มปรากฏ:
-
เหนือสนับสนุนการปกป้องอุตสาหกรรม
-
ใต้พึ่งพาการส่งออกและสินค้านำเข้า → คัดค้านภาษีสูง
-
🔹 3. ยุคปกป้อง (Protectionist Era, 1861–1930):
-
หลังสงครามกลางเมือง ภาษีนำเข้าสูงขึ้นและ “ค้างคา” นานเกือบ 70 ปี
-
พรรครีพับลิกันสนับสนุนแนวคิด “ปกป้องอุตสาหกรรม”
-
Smoot-Hawley Tariff (1930) ยิ่งเพิ่มภาษี → นำไปสู่สงครามภาษีและซ้ำเติมเศรษฐกิจช่วง Great Depression
🔹 4. ยุคการเจรจาและความร่วมมือ (1934–1980s):
-
Reciprocal Trade Agreements Act (1934): โอนอำนาจเจรจาการค้าจากสภาให้ประธานาธิบดี
-
สหรัฐฯ ก่อตั้ง GATT (1947) → เริ่มวางระบบการค้าเสรีพหุภาคี
-
นโยบายการค้าเชื่อมโยงกับ ยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ ในบริบทสงครามเย็น
🔹 5. ความเห็นพ้องแบบสองพรรค (1940s–1980s):
-
ทั้งเดโมแครตและรีพับลิกันสนับสนุนการค้าเสรี
-
ใช้การลดภาษีเพื่อส่งเสริมการเติบโตและสร้างพันธมิตรในสงครามเย็น
-
มาตรการ “ผ่อนผันเฉพาะกลุ่ม” (quotas, safeguards) ใช้บรรเทาผลกระทบภายในประเทศ
🔹 6. โลกาภิวัตน์และจุดแตกหัก (1990s–ปัจจุบัน):
-
NAFTA (1993) ได้รับเสียงสนับสนุนสองพรรค แต่เริ่มมีแรงต้านจากประชาชนและแรงงาน
-
จีนเข้า WTO (2001) → เปิดตลาดใหม่แต่กระทบอุตสาหกรรมการผลิตในสหรัฐฯ
-
การคัดค้าน TPP และท่าทีของผู้สมัครในปี 2016 (ทรัมป์และแซนเดอร์ส) สะท้อนว่า “การค้าเสรี” กลายเป็นเป้าหมายโจมตีทางการเมือง
-
ประเด็นการค้า = ตัวแทนของความไม่เท่าเทียมและอัตลักษณ์ทางเศรษฐกิจ
⚖️ แรงตึงเครียดที่ต่อเนื่องในนโยบายการค้า
ประเด็น | มุมมองหนึ่ง | มุมมองตรงข้าม |
---|---|---|
การปกป้องอุตสาหกรรม | รักษางาน, ส่งเสริมการผลิตในประเทศ | เพิ่มราคาสินค้า, จุดชนวนตอบโต้จากต่างประเทศ |
การค้าเสรี | เปิดตลาด ส่งออกได้มากขึ้น, เสริมพันธมิตร | สูญเสียงานในภาคการผลิต, ค่าแรงนิ่ง |
อำนาจการเจรจา | ประธานาธิบดีควรมีอำนาจเพื่อความคล่องตัว | สภาควรมีบทบาทเพื่อตรวจสอบผลกระทบในท้องถิ่น |
🧠 สาระสำคัญ
-
นโยบายการค้า = ภาพสะท้อนของ “ภูมิรัฐศาสตร์” + “ผลประโยชน์ในประเทศ”
-
จากเครื่องมือเก็บภาษี → กลายเป็นเวทีต่อสู้ทางอุดมการณ์
-
วันนี้ การค้าถูกมองว่าไม่ใช่แค่ “เรื่องเศรษฐกิจ” แต่เกี่ยวข้องกับ ตัวตนของประเทศ และความเป็นธรรมทางสังคม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น