วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568

Technofeudalism

 


🧠 สรุป Technofeudalism: What Killed Capitalism โดย Yanis Varoufakis


📌 แนวคิดหลัก:

Varoufakis เสนอว่า “เทคโนฟิวดัลลิสม์” (Technofeudalism) กำลังเข้ามาแทนที่ทุนนิยมแบบดั้งเดิม หลังจากวิกฤตการเงินปี 2008 ที่รัฐบาลพยายาม “กู้วิกฤตทุนนิยม” ด้วยการอัดฉีดเงินมหาศาล — กลับกลายเป็นการเปิดทางให้ Big Tech กลายเป็น “ขุนนางดิจิทัล” ที่ควบคุมชีวิตและข้อมูลของเราแบบไม่รู้ตัว


📍 เส้นทางจากทุนนิยม → เทคโนฟิวดัลลิสม์

ระบบ ทุน & อำนาจ แรงงาน รายได้หลัก
Feudalism ที่ดินของขุนนาง ชาวนา (serfs) ค่าเช่าที่ดิน (rent)
Capitalism เครื่องมือการผลิต คนงาน (laborers) กำไรจากสินค้า (profit)
Technofeudalism ข้อมูล + แพลตฟอร์ม ผู้ใช้ (users) ค่าเช่าดิจิทัล (digital rent)

💥 จุดพลิกผัน: วิกฤตปี 2008

  • รัฐบาลอัดฉีด $35 ล้านล้าน เข้าระบบการเงิน (Quantitative Easing)

  • คาดหวังให้เงินไหลสู่ภาคการผลิต → แต่ไปสู่ “สินทรัพย์เก็งกำไร” (หุ้น อสังหาฯ Crypto)

  • บริษัท Big Tech ได้รับเงินทุนมหาศาลแม้ยังไม่มีกำไร → ลงทุนสร้าง cloud capital (อัลกอริธึม, แพลตฟอร์ม, server)


🏰 โลกใหม่แบบ “Amazontown”

  • Amazon ไม่ใช่ตลาดแข่งขันเสรี → มันคือ “อาณาจักรดิจิทัล” ที่ควบคุมโดยอัลกอริธึมของ Jeff Bezos

  • บริษัทอื่นต้องจ่ายค่าเช่าถึง 50% เพื่อเข้าถึงผู้บริโภค

  • Facebook, TikTok, Uber, Apple ก็คล้ายกัน → ควบคุม “เส้นทางเข้าตลาด” ทั้งหมด


🧱 ข้อแตกต่างจากทุนนิยม

คุณลักษณะของทุนนิยม สถานะในยุค Big Tech
ผลิตสินค้า (commodities) ไม่ใช่เป้าหมายหลัก (เน้นพฤติกรรม & ความสนใจ)
จ้างแรงงานจำนวนมาก ใช้แรงงานน้อย (<1% ของรายได้)
ใช้ทุนผลิตสิ่งของ ใช้ cloud capital เพื่อควบคุมข้อมูล & พฤติกรรม
แข่งขันเพื่อกำไร หลายบริษัทขาดทุนแต่ยังอยู่รอดได้จากเงินทุนเสมือน

📲 “แรงงานฟรี” ในระบบใหม่

  • เรา = digital serfs → ผลิตคอนเทนต์ แชร์ข้อมูล สร้าง engagement

  • Big Tech ได้ “ค่าเช่า” จากข้อมูลโดยไม่ต้องจ้างเรา

  • อัลกอริธึมสร้างวงจรติดหนึบ → เราเทรนมัน มันก็เทรนเรา


🧩 สาระสำคัญที่ควรตระหนัก

  1. Big Tech คือผู้เก็บค่าผ่านทางในยุคใหม่

    • ทุกธุรกิจ (แม้แต่คนเดินหมา) ต้องผ่านแพลตฟอร์ม

    • โดนแบน = สูญพันธุ์ทันที

  2. ทุนของ Big Tech ไม่ได้ผลิตสิ่งของ แต่ควบคุมพฤติกรรม

    • เปลี่ยน “กำไร” → เป็น “การเก็บข้อมูลและควบคุมพฤติกรรมมนุษย์”

  3. ผู้ใช้คือผู้ผลิต แต่ไม่ได้รับค่าจ้าง

    • การใช้งาน = การทำงาน

    • แต่เรา “เต็มใจ” เพราะมันให้ความบันเทิงและความสะดวก

  4. รัฐตั้งใจจะ “ช่วยทุนนิยม” แต่กลับช่วยปลุก Technofeudalism

    • รัฐพิมพ์เงิน → ทุนไหลไปสู่แพลตฟอร์ม ไม่ใช่ภาคการผลิต

    • เศรษฐกิจหดตัว แต่ Big Tech เติบโตจากข้อมูล & อำนาจเครือข่าย


🧠 บทสรุป:

“เทคโนฟิวดัลลิสม์” คือระบบใหม่ที่ไม่ใช่ทั้งทุนนิยมเก่า หรือสังคมนิยมใหม่ — แต่เป็นการรวมอำนาจผ่านข้อมูล ความสนใจ และการเข้าถึงลูกค้า โดยเจ้าของแพลตฟอร์มดิจิทัล

การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เกิดจากการปฏิวัติหรือแรงงาน แต่จากการ กดไลก์ แชร์ และเปิดแอปซ้ำ ๆ ทุกวัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น